AIS 5G สู้ภัยโควิดรุกเฟส 3 จับมือราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดเต็ม Telemedicine “30วินาทีรู้ผล-ลดเหลื่อมล้ำ”
logo-cwn1

AIS 5G สู้ภัยโควิดรุกเฟส 3 จับมือราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดเต็ม Telemedicine “30วินาทีรู้ผล-ลดเหลื่อมล้ำ”

“เอไอเอส” ยังคงปูพรมแสดงศักยภาพของเทคโนโลยี 5G ที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ ในฐานะ “กองหนุน” ของเหล่านักสู้ชุดขาว เพื่อทำสงครามกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายใต้ภารกิจ “AIS 5G สู้ภัยโควิด-19”

 

ล่าสุดได้ส่งมอบ 5G Total Telemedicine Solutions เต็มรูปแบบ เพื่อสนับสนุนบริการทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นการร่วมกันพัฒนาระหว่าง “เอไอเอส” และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ถือเป็น โรงพยาบาลต้นแบบแห่งการรักษาพยาบาลผ่านเทคโนโลยี 5G รายแรกของไทย

 

ทั้งยังมีระบบ Telemedicine และนำ 5G มาสนับสนุนการเรียนการสอนแบบ Smart Class Room ของวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

 

 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้ ทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เองก็ได้มีการนำแพลตฟอร์มดิจิทัลรูปแบบต่างๆ มาช่วยในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 รวมถึงผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสงสัยติดเชื้อ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่ยังจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ก็ยังสามารถพบแพทย์อยู่ที่บ้านไม่จำเป็นต้องเดินทางมาโรงพยาบาลในช่วงนี้

 

การทำงานร่วมกับเอไอเอสเพื่อยกระดับบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ให้เป็นโมเดลต้นแบบของนำเทคโนโลยีชั้นนำแห่งยุคอย่างนวัตกรรมเครือข่าย 5G มาสนับสนุนการทำงาน เสริมประสิทธิภาพการดูแลและตรวจรักษาผู้ป่วยในช่วงโควิด -19 ให้ดียิ่งขึ้น

 

ทั้งในส่วนการให้คำปรึกษาทางไกลระหว่างแพทย์และผู้ป่วย หรือหาหมออยู่ที่บ้านผ่านระบบ Telemedicine ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่สามารถให้ภาพและเสียงที่คมชัด ช่วยให้แพทย์ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นและวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ, ระบบ AI บนเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ชนิดความเร็วสูง หรือ CT Scan ปอด ที่จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่ออยู่บนเครือข่าย 5G เพื่อให้การรักษาได้ทันท่วงที รวมถึงการมีหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ 5G ROBOT FOR CARE ที่มาพร้อมความสามารถในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และการ Video Call ช่วยให้การติดตามและเฝ้าดูอาการผู้ป่วยโควิด-19 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และช่วยลดการติดต่อระหว่างคนไข้ติดเชื้อกับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เร็วที่สุด พร้อมผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน

 

 

“สมชัย เลิศสุทธิวงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ความร่วมมือนี้ตอกย้ำแนวคิด “5G ที่จับต้องได้ เพื่อทุกชีวิต” สร้าง New Normal วงการแพทย์ สร้างความเท่าเทียมในการรับบริการด้านสาธารณสุขของคนไทยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

 

โดยเอไอเอสได้เดินหน้าภารกิจ AIS 5G สู้ภัยโควิด-19 อย่างต่อเนื่องทั้งการติดตั้งเครือข่าย 5G ในโรงพยาบาลที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วยโควิด-19, การส่งมอบหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ 5G ROBOT FOR CARE เพื่อช่วยดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด -19 ทั้งหมด 23 ตัว ให้กับโรงพยาบาล 22 แห่ง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ลดโอกาสติดเชื้อให้กับบุคลากรทางการแพทย์

 

“ถือเป็น Big Move อีกก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยี 5G มาร่วมยกระดับศักยภาพการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ หรือ 5G Total Telemedicine Solutions ในหลากหลายมิติ ให้กับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ครอบคลุมตั้งแต่การนำ 5G เข้ามาผสมผสานเพิ่มขีดความสามารถให้กับเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์”

 

และสนับสนุนการพัฒนาระบบประมวลผล AI บนเครือข่าย 5G สำหรับเครื่อง CT Scan ปอด เครื่องแรกของไทยอีกด้วย ซึ่งการประมวลผลผ่านระบบ AI-assisted Medical Imaging Solutions for COVID-19 ให้ผลแม่นยำถึง 96% โดยใช้เวลาเพียง 30 วินาที นำไปสู่การรักษาพยาบาลที่รวดเร็วและทันท่วงที

ที่มา : https://www.prachachat.net/ict/news-457407

RELATED POSTS